Starbucks ได้ทำการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยได้แต่งตั้ง Brian Niccol ผู้ซึ่งเคยเป็น CEO ของ Chipotle และ CMO ของ Pizza Hut และ Taco Bell เข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ของ Starbucks โดยที่ Niccol มีชื่อเสียงจากความสามารถในการเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยการนำเสนอเมนูใหม่ๆ และการปรับปรุงการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ
Brian Niccol อดีตผู้บริหารระดับสูงของ Chipotle ให้เข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ Niccol มีผลงานโดดเด่นจากการเพิ่มยอดขายและกำไรของ Chipotle ให้สูงขึ้นอย่างมากภายในระยะเวลา 6 ปี ซึ่งเขาสามารถนำบริษัทผ่านการปรับปรุงครั้งใหญ่จนทำให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคงโดยรายได้ของ Chipotle เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า และกำไรพุ่งขึ้นถึงเจ็ดเท่า อีกทั้งราคาหุ้นของบริษัทก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลถึง 800% ภายใน 6 ปีของการบริหารงานของเขา
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
Starbucks เองก็กำลังเผชิญกับความท้าทายทางการเงินที่รุนแรง ยอดขายในไตรมาสแรกของบริษัทลดลง 4% และไตรมาสที่สองลดลงอีก 3% ซึ่งเป็นการลดลงที่น่ากังวลเมื่อเทียบกับการเติบโตที่แข็งแกร่งในปี 2023 ที่ผ่านมา โดยในปีนั้นรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 11.5% อย่างไรก็ตาม CEO ปัจจุบันของ Starbucks, Laxman Narasimhan ได้กล่าวว่าแผนการดำเนินงานสามส่วนของบริษัทกำลังเริ่มเห็นผล โดยจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และคาดหวังว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะกลับมาเติบโตอย่างยั่งยืนในไม่ช้า
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินงานใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่การขยายตัวในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นจุดที่ Starbucks กำลังให้ความสำคัญเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและสร้างรายได้เพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีการยกเลิกตำแหน่งของ Laxman Narasimhan (ลักษมัน นาราซิมฮาน) โดยให้ Brady Brewer ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนี้ขึ้นเป็น CEO ของธุรกิจระหว่างประเทศแทน และมุ่งเน้นการบริหารจัดการในแต่ละภูมิภาคอย่างเฉพาะเจาะจงมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ Starbucks ในการปรับปรุงประสิทธิภาพและเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ความกดดันจากภายนอก
นอกจากการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรแล้ว Starbucks ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากภายนอก เช่น การเรียกร้องให้บอยคอตต์หลังจากที่บริษัทมีปัญหากับสหภาพแรงงาน ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่ท้าทายต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ออกมาชี้แจงและยืนยันว่านโยบายของบริษัทไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงหรือกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ทั้งนี้ การตัดสินใจยกเลิกตำแหน่ง CMO และการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Starbucks ในการรักษาและเพิ่มความแข็งแกร่งขององค์กรในระยะยาว ทั้งในแง่ของการเงินและประสบการณ์ของลูกค้า โดยหวังว่าการปรับโครงสร้างนี้จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของบริษัทให้มั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคตในตลาดที่มีการแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา