ดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกาย เผาผลาญได้จริงหรือเป็นแค่ความเชื่อ

Drink coffee before exercising.

ทุกวันนี้ถ้าเราไปที่ฟิตเนสหรือเปิดโซเชียล ก็มักจะเห็นหลายคนถือแก้วกาแฟก่อนเข้ายิม บางคนบอกว่ากาแฟช่วยให้มีแรง บางคนบอกว่าช่วยเผาผลาญไขมันมากขึ้น แต่ก็มีบางกลุ่มที่สงสัยว่านี่เป็นเรื่องจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือแค่ความเชื่อที่สืบต่อกันมาเท่านั้น

 

กาแฟกับร่างกายเรา

กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกนิยมมากที่สุด สิ่งสำคัญที่ทำให้กาแฟมีผลต่อร่างกายก็คือ คาเฟอีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นตามธรรมชาติที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาทส่วนกลาง คาเฟอีนช่วยให้รู้สึกตื่นตัว ลดความเหนื่อยล้า และยังมีผลต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย

เมื่อเราดื่มกาแฟ คาเฟอีนจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ระดับคาเฟอีนในเลือดจะสูงสุด และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือหัวใจเต้นเร็วขึ้น ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น และอาจช่วยกระตุ้นให้ร่างกายใช้ไขมันสะสมเป็นพลังงาน

 

ดื่มกาแฟแล้วเผาผลาญได้จริงไหม

นี่เป็นคำถามหลักที่หลายคนอยากรู้ งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าคาเฟอีนสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานได้จริง ร่างกายจะใช้พลังงานมากขึ้นเล็กน้อยแม้ในช่วงพัก และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ คาเฟอีนช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้นระหว่างการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ

บางงานวิจัยพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายสามารถออกกำลังได้นานขึ้น รู้สึกเหนื่อยน้อยลง และใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพกว่า แต่ก็ต้องบอกว่า ผลลัพธ์ไม่ได้เกิดกับทุกคนเท่ากัน บางคนตอบสนองต่อคาเฟอีนได้ดีมาก แต่บางคนอาจไม่รู้สึกต่างอะไรเลย

 

กาแฟช่วยเพิ่มสมรรถภาพการออกกำลังกายได้ยังไง

  1. เพิ่มความตื่นตัว คาเฟอีนไปยับยั้งสารที่ทำให้เราง่วง ทำให้สมองสดชื่น
  2. ลดความรู้สึกเหนื่อย เมื่อออกกำลัง คาเฟอีนช่วยให้รู้สึกว่าใช้แรงน้อยกว่าความจริง
  3. กระตุ้นการใช้ไขมัน ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาเผาผลาญมากขึ้น
  4. เพิ่มพลังกล้ามเนื้อ มีงานวิจัยบางส่วนชี้ว่าคาเฟอีนช่วยให้กล้ามเนื้อหดตัวได้แรงขึ้น

 

Young asian woman enjoying having coffee in living room at home

ดื่มกาแฟตอนไหนดีที่สุดก่อนออกกำลังกาย

ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ 30-60 นาทีก่อนออกกำลังกาย เพราะเป็นเวลาที่ระดับคาเฟอีนในเลือดสูงสุด ร่างกายจะได้ประโยชน์เต็มที่

อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่แนะนำอยู่ที่ ประมาณ 3-6 มิลลิกรัมคาเฟอีนต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าน้ำหนัก 60 กิโลกรัม ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมคือ 180-360 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับกาแฟดำประมาณ 1-3 แก้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับความทนทานของแต่ละคนด้วย

 

ผลลัพธ์ที่คนส่วนใหญ่เจอ

บางคนดื่มแล้วรู้สึกว่าออกกำลังกายได้ดีกว่า เหนื่อยน้อยลง และน้ำหนักลดลงเร็วขึ้นจริง แต่ก็มีอีกหลายคนที่รู้สึกใจสั่น มือสั่น หรือท้องไส้ปั่นป่วนหลังดื่มกาแฟก่อนออกกำลัง สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความไวต่อคาเฟอีนของแต่ละคน

 

ข้อควรระวังของการดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกาย

แม้ว่ากาแฟจะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม

  • ดื่มมากเกินไปทำให้ใจสั่น นอนไม่หลับ หรือความดันสูง
  • บางคนท้องไส้ไว ดื่มกาแฟแล้วอาจปวดท้อง ต้องเข้าห้องน้ำกลางคัน
  • ถ้าดื่มช่วงเย็นหรือกลางคืน อาจส่งผลต่อการนอนหลับ ทำให้พักผ่อนไม่พอ
  • คนที่มีโรคหัวใจหรือความดัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

 

กาแฟช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม

กาแฟไม่ใช่เครื่องดื่มวิเศษที่ดื่มแล้วไขมันหายไป สิ่งที่มันทำคือช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้นเล็กน้อย และช่วยให้เรามีแรงออกกำลังกายมากขึ้น ถ้าเรานำพลังงานที่ได้ไปใช้จริงๆ ก็จะเผาผลาญได้มากกว่าเดิม

แต่ถ้าเราดื่มกาแฟเย็นใส่นมข้นหวานทุกวัน แทนที่จะช่วยลดน้ำหนัก อาจกลายเป็นเพิ่มแคลอรีเข้าไปโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

 

เคล็ดลับดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายให้ได้ผล

  1. เลือกกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาลหรือนมมากเกินไป
  2. ดื่มล่วงหน้า 30-60 นาทีก่อนออกกำลัง
  3. อย่าดื่มเกินวันละ 3-4 แก้ว เพราะอาจส่งผลเสียมากกว่าดี
  4. ฟังร่างกายตัวเอง ถ้าใจสั่นหรือเวียนหัว ควรลดปริมาณ
  5. ร่วมกับการกินอาหารที่ดีและออกกำลังสม่ำเสมอ กาแฟถึงจะช่วยเสริมได้จริง

 

ดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกาย มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ว่าสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ลดความเหนื่อยล้า และทำให้ใช้พลังงานจากไขมันได้มากขึ้น แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เท่ากันในทุกคน และไม่ใช่วิธีลัดในการลดน้ำหนัก

ถ้าดื่มอย่างพอดี เลือกกาแฟดำ และใช้มันเป็นตัวช่วยเสริมการออกกำลังกาย กาแฟก็สามารถเป็นเพื่อนคู่ฟิตเนสที่ดีได้ แต่ถ้าดื่มมากเกินไปหรือดื่มแบบใส่น้ำตาลเยอะ ก็อาจกลายเป็นผลเสียแทนได้

กาแฟเป็นเพียง “ตัวช่วย” สิ่งที่จะทำให้สุขภาพดีและน้ำหนักลดได้จริงคือความสม่ำเสมอในการออกกำลังกายและการกินอาหารที่เหมาะสม