ผ้าฟาง หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่าผ้าใบพลาสติก เป็นวัสดุสารพัดประโยชน์ แผงลอยตลาดนัดไปจนถึงงานก่อสร้างขนาดใหญ่ แม้จะดูเป็นเรื่องง่ายๆแต่ความแตกต่างของ สี ที่เราเห็น เช่น ฟ้า-ขาว, ฟ้าล้วน, หรือขาวล้วน นั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องของความสวยงาม แต่มีนัยสำคัญต่อ ความทนทาน, การใช้งาน, และอุณหภูมิ ที่อยู่ใต้ผ้าใบนั้นๆ บทความนี้จะมาอธิบายคุณสมบัติของผ้าฟางแต่ละสี และวิธีการเลือกใช้ให้คุ้มค่าและตรงกับวัตถุประสงค์ของงานได้
ลักษณะสำคัญที่ทำให้ผ้าฟางได้รับความนิยมคือ ราคาที่ถูก, น้ำหนักเบา, และสามารถตัดเย็บได้ตามขนาดที่ต้องการ ความแตกต่างของผ้าฟางฟ้า-ขาว, ฟ้าล้วน, และขาวล้วน หลักๆ คือการจัดการกับ แสงแดดและความร้อน
ผ้าฟาง ฟ้า-ขาว
คือสีที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด และเป็นตัวเลือกที่สมดุลที่สุดในการใช้งานทั่วไป
- ด้านสีขาว (White Side) ทำหน้าที่ สะท้อนแสงอาทิตย์ และความร้อนส่วนใหญ่ให้ออกไป ทำให้ความร้อนที่สะสมใต้ผ้าใบไม่สูงจนเกินไป เหมาะกับการหันออกด้านนอก
- ด้านสีฟ้า (Blue Side) มีคุณสมบัติ ดูดซับความร้อน บางส่วนและช่วยพรางแสงได้ดีกว่าสีขาว แต่ไม่ถึงกับมืดสนิท
- จุดเด่น ให้ความเย็นสบายปานกลาง, มีความทนทานต่อ UV มาตรฐาน, และเห็นรอยสกปรกได้ยากกว่าสีขาวล้วน
- ความเหมาะสม งานตลาดนัด, การคลุมสินค้าทั่วไป, การทำหลังคาโรงเรือนชั่วคราวที่ต้องการแสงสว่าง
ผ้าฟาง ฟ้าล้วน
ผ้าฟางสีเข้มหรือสีฟ้าล้วนมักจะมี UV Stabilizer ที่ดีเยี่ยม แต่มีข้อจำกัดเรื่องความร้อน
- คุณสมบัติ สีฟ้าเข้มจะ ดูดซับแสงและความร้อน ไว้ค่อนข้างสูง ทำให้พื้นที่ใต้ผ้าใบอาจร้อนกว่าสีขาวอย่างชัดเจน แต่ให้การพรางแสงได้ดี
- จุดเด่น ทนทานต่อการซีดจางและรังสียูวีได้ดีมาก (เนื่องจากสีเข้ม), มองเห็นรอยสกปรกและคราบได้ยาก
- ความเหมาะสม งานก่อสร้างที่ต้องการการพรางสายตา, การคลุมดิน/คลุมกองวัสดุที่ไม่ได้ต้องการการระบายความร้อนมากนัก, การใช้ในพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องยืนทำงานอยู่ใต้ร่มเป็นเวลานาน
ผ้าฟาง ขาวล้วน
ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการกับอุณหภูมิและความสว่าง
- คุณสมบัติ สีขาวล้วนมีคุณสมบัติในการ สะท้อนความร้อนและแสงได้ดีที่สุด ทำให้พื้นที่ใต้ผ้าใบมีความร้อนสะสมน้อยที่สุด และยังให้แสงสว่างที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ
- จุดเด่น พื้นที่ใต้ผ้าใบจะเย็นกว่าสีฟ้าอย่างชัดเจน, เหมาะกับงานที่ต้องการความสะอาดตาและเป็นระเบียบ
- ข้อควรระวัง อาจมองเห็นรอยเปื้อน, คราบดิน, หรือคราบน้ำได้ง่ายกว่าสีอื่น
วิธีเลือกผ้าฟางให้ตรงกับงาน
การเลือกสีที่ถูกต้องจะช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณ
| ประเภทงาน | วัตถุประสงค์หลัก | สีที่แนะนำ | เหตุผล |
| งานเกษตรกรรม/โรงเรือน | ควบคุมอุณหภูมิ, ให้แสงสว่าง | ขาวล้วน หรือ ฟ้า-ขาว (ด้านขาวขึ้น) | สะท้อนความร้อนสูงสุด ช่วยให้พืชไม่เฉา และให้แสงกระจายตัวดี |
| การคลุมกองสินค้า/เครื่องจักร | กันฝน, กันฝุ่น, ทนทาน | ฟ้าล้วน หรือ ฟ้า-ขาว | ทนทานต่อ UV ได้ดี, เห็นคราบสกปรกยาก, ให้ความทนทานต่อการใช้งานหนัก |
| งานตลาดนัด/ซุ้มขายของ | พรางแสง, กันฝน, ความสวยงาม | ฟ้า-ขาว | สมดุลทั้งความเย็นและการพรางแสง, เป็นสีมาตรฐานที่หาได้ง่ายและราคาเข้าถึงได้ |
| งานก่อสร้าง/กั้นพื้นที่ | ปิดล้อมพื้นที่, ความสะอาดตา | ขาวล้วน หรือ ฟ้าล้วน | ขาวล้วนให้ภาพลักษณ์ที่สะอาด แต่ฟ้าล้วนจะทนต่อการเปื้อนโคลนได้ดีกว่า |
| งานรองพื้นบ่อ/บ่อน้ำ | เน้นความทนทานต่อการจมน้ำ | ฟ้าล้วน หรือ ฟ้า-ขาว | (คุณสมบัติกันน้ำเท่ากันทุกสี) เลือกสีเข้มเพื่อซ่อนสิ่งสกปรกและราคาสมเหตุสมผล |
ข้อคิดเพิ่มเติมที่ควรรู้
- ความหนา ผ้าฟางคุณภาพสูงจะมีความหนาแน่นของเส้นใยและชั้นเคลือบที่ดีกว่า โดยทั่วไปจะวัดเป็น GSM ยิ่ง GSM สูง ยิ่งหนาและทนทานขึ้น
- UV Protection ตรวจสอบว่าผ้าฟางมีสารป้องกันรังสียูวี UV Stabilizer ผสมอยู่ในการเคลือบหรือไม่ หากไม่มี ผ้าจะเสื่อมสภาพเร็วและเปราะเมื่อโดนแดดจัดเป็นเวลานาน
- ตาไก่ ควรตรวจสอบว่ารูตาไก่มีความแข็งแรงหรือไม่ หากตาไก่หลุดง่าย จะทำให้ผ้าขาดหรือฉีกเมื่อต้องผูกตึงรับแรงลม
การเลือกผ้าฟางที่เหมาะสมกับงานจะช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณและลดความถี่ในการเปลี่ยนวัสดุ โดยเฉพาะงานที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดและสภาพอากาศที่รุนแรง ดังนั้น จงเลือกสีให้สอดคล้องกับสิ่งที่อยู่ใต้ผ้าใบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด












